ต้นทุนสินค้า เรื่องสำคัญที่บริษัทมองข้ามไม่ได้


ต้นทุนสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่บริษัทต้องคำนึงถึงในการทำธุรกิจ เพราะต้นทุนสินค้าจะส่งผลต่อราคาขายสินค้าและกำไรของบริษัทโดยตรง ดังนั้น บริษัทจึงควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับต้นทุนสินค้าอย่างถ่องแท้ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนและควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

ประเภทของต้นทุนสินค้า

ต้นทุนสินค้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)

เป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าขนส่ง เป็นต้น

ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)

เป็นต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าเช่า ค่าเสื่อมราคา ค่าจ้างพนักงานประจำ เป็นต้น

นอกจากนี้ ต้นทุนสินค้ายังสามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทอื่นๆ ดังนี้

ต้นทุนหลัก (Direct Cost)

เป็นต้นทุนที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการผลิตสินค้า เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงานโดยตรง เป็นต้น

ต้นทุนรอง (Indirect Cost)

เป็นต้นทุนที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าโดยอ้อม เช่น ค่าสาธารณูปโภค ค่าประกันภัย เป็นต้น

ต้นทุนการผลิต (Manufacturing Cost)

เป็นต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า เช่น ต้นทุนหลัก ต้นทุนรอง และต้นทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร ค่าซ่อมบำรุงเครื่องจักร เป็นต้น

ต้นทุนขาย (Selling Cost)

เป็นต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้า เช่น ค่าขนส่ง ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย เป็นต้น

ต้นทุนการบริหาร (Administrative Cost)

เป็นต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของบริษัท เช่น ค่าเช่าสำนักงาน ค่าจ้างพนักงาน เป็นต้น

การคิดคำนวณต้นทุนสินค้า

การคิดคำนวณต้นทุนสินค้าสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทของต้นทุนและข้อมูลที่มี เช่น

การคิดคำนวณต้นทุนสินค้าโดยวิธีต้นทุนรวม (Total Cost Method) เป็นวิธีการคำนวณต้นทุนสินค้าโดยรวม โดยนำต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้ามารวมกัน เช่น ต้นทุนหลัก ต้นทุนรอง และต้นทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

การคิดคำนวณต้นทุนสินค้าโดยวิธีต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost Method) เป็นวิธีการคำนวณต้นทุนสินค้าต่อหน่วย โดยนำต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้ามาหารด้วยปริมาณการผลิตเป็นวิธีการคำนวณต้นทุนสินค้าโดยใช้ค่ามาตรฐานของต้นทุนต่างๆ เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน เป็นต้น

ตัวอย่างการคิดคำนวณต้นทุนสินค้า

ตัวอย่างการคิดคำนวณต้นทุนสินค้าโดยวิธีต้นทุนรวม

บริษัท ABC ผลิตสินค้า A โดยมีข้อมูลต้นทุนต่างๆ ดังนี้

ค่าวัตถุดิบ 100 บาท

  • ค่าแรงงาน 50 บาท
  • ค่าขนส่ง 20 บาท
  • ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร 10 บาท

ต้นทุนสินค้าโดยรวมของสินค้า A = 100 + 50 + 20 + 10 = 180 บาท

ตัวอย่างการคิดคำนวณต้นทุนสินค้าโดยวิธีต้นทุนต่อหน่วย

บริษัท ABC ผลิตสินค้า A โดยมีข้อมูลต้นทุนต่างๆ ดังนี้

  • ค่าวัตถุดิบ 100 บาท
  • ค่าแรงงาน 50 บาท
  • ค่าขนส่ง 20 บาท
  • ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร 10 บาท

ปริมาณการผลิตสินค้า A = 100 ชิ้น

ต้นทุนสินค้าต่อหน่วยของสินค้า A = 180 / 100 = 1.8 บาท

ตัวอย่างการคิดคำนวณต้นทุนสินค้าโดยวิธีต้นทุนมาตรฐาน

บริษัท ABC กำหนดค่ามาตรฐานของต้นทุนต่างๆ ดังนี้

  • ค่าวัตถุดิบ 100 บาท
  • ค่าแรงงาน 50 บาท
  • ค่าขนส่ง 20 บาท

ต้นทุนสินค้ามาตรฐานของสินค้า A = 100 + 50 + 20 = 170 บาท

ความสำคัญของต้นทุนสินค้า

ต้นทุนสินค้ามีความสำคัญต่อบริษัทดังต่อไปนี้

  • เป็นตัวกำหนดราคาขายสินค้า
  • เป็นตัวกำหนดกำไรของบริษัท
  • เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพในการผลิต
  • เป็นตัวเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

ดังนั้น บริษัทจึงควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับต้นทุนสินค้าอย่างถ่องแท้ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนและควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ โดยสามารถดำเนินการได้ดังนี้

วิเคราะห์ต้นทุนสินค้าอย่างละเอียด โดยพิจารณาประเภทของต้นทุน รายละเอียดของต้นทุน และสาเหตุของต้นทุนที่สูงขึ้น

หาแนวทางในการลดต้นทุน เช่น หาแหล่งวัตถุดิบราคาถูก ปรับปรุงกระบวนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เป็นต้น

ติดตามการเปลี่ยนแปลงของต้นทุน อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสามารถปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยสรุปแล้ว ต้นทุนสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่บริษัทต้องคำนึงถึงในการทำธุรกิจ ดังนั้น บริษัทจึงควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับต้นทุนสินค้าอย่างถ่องแท้ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนและควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ