ปัจจุบันการทำประกันเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของเราให้ปลอดภัยจากความเสี่ยงต่างๆ พนักงานประจำเองก็เช่นกันการทำประกันที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องเราจากความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวัน นอกเหนือไปจากประกันกลุ่มที่บริษัททำให้ ซึ่งในบางครั้งความคุ้มครองอาจจะไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร ในบทความนี้เราจะมาบอกถึงรูปแบบของประกันที่พนักงานประจำอย่างเราๆควรมี และหลักเกณฑ์ในการเลือกประกัน
ประกันที่พนักงานประจำควรมี
ประกันที่พนักงานประจำควรมีหลักๆ มีอยู่ 3 แบบด้วยกัน ได้แก่
ประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ประกันสุขภาพที่เหมาะสมสำหรับพนักงานประจำควรครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมถึงค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และค่าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ประกันชีวิต
ประกันชีวิตเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองเงินก้อนเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตหรือพิการถาวร ประกันชีวิตที่เหมาะสมสำหรับพนักงานประจำควรมีวงเงินเพียงพอต่อการชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังการเสียชีวิตหรือพิการของผู้เอาประกัน เช่น ค่าเลี้ยงดูครอบครัว ค่าการศึกษาบุตร ค่าสร้างบ้านหรือซื้อที่ดิน เป็นต้น
ประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและเงินก้อนเมื่อประสบอุบัติเหตุ ประกันอุบัติเหตุที่เหมาะสมสำหรับพนักงานประจำควรครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมถึงค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และค่าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ควรมีวงเงินคุ้มครองเงินก้อนเพียงพอต่อการชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังประสบอุบัติเหตุ เช่น ค่าซ่อมแซมรถ ค่ารักษาพยาบาลที่เกินวงเงินประกันสุขภาพ เป็นต้น
เลือกประกันอย่างไรให้เข้ากับเรามากที่สุด
สำหรับการเลือกประกันที่เหมาะสมสำหรับพนักงานประจำ สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณามีดังนี้
ความต้องการ
เริ่มต้นจากการสำรวจความต้องการและความเสี่ยงต่างๆ ที่เราต้องการคุ้มครอง เช่น ต้องการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอกด้วยหรือไม่ ต้องการคุ้มครองเงินก้อนเมื่อเสียชีวิตหรือพิการถาวรหรือไม่ ต้องการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อประสบอุบัติเหตุหรือไม่ เป็นต้น
งบประมาณ
กำหนดงบประมาณที่เราสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ในแต่ละเดือน โดยสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในส่วนของเบี้ยประกันต่อเดือนสูงสุดที่ไม่เกินเดือนละประมาณ 15% เช่นถ้ามีเงินเดือน 30,000 บาท เบี้ยประกันที่เราจ่ายไม่ควรเกิน 4500 ต่อเดือน หรือ 54,000 บาท
เงื่อนไขของกรมธรรม์
ควรศึกษาเงื่อนไขของกรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อประกัน เพื่อให้แน่ใจว่าความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ที่ได้รับตรงตามความต้องการ
ตัวอย่างประกันสุขภาพสำหรับพนักงานประจำ ได้แก่
ประกันสุขภาพกลุ่ม
ประกันสุขภาพกลุ่มเป็นประกันที่บริษัทจัดให้พนักงาน โดยพนักงานไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเอง ประกันสุขภาพกลุ่มส่วนใหญ่จะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมถึงค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และค่าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ประกันสุขภาพส่วนบุคคล
ประกันสุขภาพส่วนบุคคลเป็นประกันที่พนักงานสามารถซื้อเองได้ โดยสามารถเลือกความคุ้มครองและวงเงินได้ตามความต้องการ
ตัวอย่างประกันชีวิตสำหรับพนักงานประจำ ได้แก่
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองตลอดชีวิต โดยผู้เอาประกันจะได้รับเงินก้อนเมื่อเสียชีวิตหรือครบกำหนดสัญญา
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตควบคู่กับการออมเงิน โดยผู้เอาประกันจะได้รับเงินก้อนเมื่อครบกำหนดสัญญา หรือสามารถนำเงินก้อนออกมาใช้ก่อนครบกำหนดสัญญาได้
ตัวอย่างประกันอุบัติเหตุสำหรับพนักงานประจำ ได้แก่
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและเงินก้อนเมื่อประสบอุบัติเหตุ โดยสามารถเลือกความคุ้มครองและวงเงินได้ตามความต้องการ
การทำประกันเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะพนักงานประจำ เพราะจะช่วยปกป้องเราจากความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวัน ในการเลือกประกันที่เหมาะสมสำหรับพนักงานประจำ สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณามีดังนี้ ความต้องการ งบประมาณ และเงื่อนไขของกรมธรรม์ โดยตัวอย่างประกันที่พนักงานประจำสามารถพิจารณาทำ ได้แก่ ประกันสุขภาพกลุ่ม ประกันสุขภาพส่วนบุคคล ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล